วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

You are what you......

หลายคนคงคุ้นชินกับคำว่า
You are what you eat
หรือ You are what you read
ฉันสงสัยว่า
มันจะจริงทั้งหมดเหรอ??

ฉันพบว่าคนบางคนตัวผอมเก้งก้าง
แต่รับประทานอย่างกับยัดทะนาน
ในขณะที่ฉันตัวอ้วนกระปุ๊กลุ๊ก
ก็ไม่ใช่ว่ากินน้อย
แต่ฉันเชื่อว่าฉันกินน้อยกว่าคนผอมบางคน
หลายคนก็บอกว่า
แหม ของอย่างนี้มันเกี่ยวกับพันธุกรรมด้วยไง

อ้าว.. แล้วไอ้ You are what you eat มันก็ไม่จริงแท้ร้อยเปอร์เซนต์สิ
ฉันเห็นบางคนรักษาสุขภาพแทบตาย
แต่ก็เจ็บกระเสาะกระแสะ
เราจะให้คำอธิบายแก่คนพวกนี้ได้ยังไง


ส่วน You are what you read นี่ฉันก็ไม่คิดว่าจริงนะ
เพราะฉันชอบอ่านนิยายสืบสวนหรือฆาตกรรมมาก
ฉันก็เคยคิดจะไปฆ่าหั่นศพใครสักที
อืม.. แต่บางทีอาการกำลังฟักตัวอยู่ก็ได้
แต่ฉันก็ชอบอ่านวรรณกรรมเยาวชนกับหนังสือภาพนะ
มันคงพิลึกถ้าฉันเป็นฆาตรกรหั่นศพที่ลัลลามองโลกในแง่ดี
ฉันคิดไปคิดมาก็พบว่า
เราคงไม่ได้เป็นทุกอย่างที่เราอ่านมั้ง


อาจเป็นเพราะเราเรียนเลขบวกลบคูณหารมากเกินไป
เรามักจะสรุปอะไรง่ายๆว่าหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง
ถ้าเรารับเอาอะไรเข้าไป สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นผลิตผลของเรา
ลองดูต้นไม้สิ มันได้น้ำ ได้แสงแดด ได้แร่ธาตุจากดิน
แต่สิ่งที่ผลิตได้กลับเป็นกิ่ง ก้าน ใบ ดอก

แล้วสรุปว่า You are what you อะไรดีล่ะ??

ถ้าถามฉันนะ ฉันคิดว่า You are what you think, what you speak, and what you act!!!
คุณเป็นสิ่งที่คุณคิด คุณทำ คุณพูดไง
เหมือนต้นมะเขือออกดอกเป็นมะเขือ ต้นกุหลาบออกดอกกุหลาบ
ไม่ต้องสรรหาหรือพยายามตั้งคำถามหรอกว่า
ต้องรดน้ำยังไง ใส่ปุ๋ยยังไง เมล็ดถึงจะงอกออกมาเป็นต้นกุหลาบ
จุดสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่า ถ้ารู้ตัวว่าเป็นต้นกุหลาบแล้ว จะเป็นต้นกุหลายที่ออกดอกได้ไหมต่างหาก

ไม่มีความคิดเห็น: